ขอนำท่าน...เริ่มต้นสู่เสันทางแสวงบุญ ตามรอยบาทพระศาสดา ซึ่งสถานที่สำคัญที่สุดภายใน
หัวใจอันเปี่ยมศรัทธา ของชาวพุทธทั่วโลก คือสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง หรือ ๔ ตำบล อันได้แก่
๑.สถานที่ประสูติ อยู่ที่ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล
๒.สถานที่ตรัสรู้ อยู่ที่พุทธคยา กรุงราชคฤห์ ประเทศอินเดีย
๓.สถานที่แสดงปฐมเทศนา อยู่ที่สารนาถ กรุงพาราณสี ประเทศอินเดีย
๔.สถานที่ปรินิพพาน อยู่ที่กุสินารา กรุงกุสินารา ประเทศอินเดีย
คณะแสวงบุญเริ่มออกเดินทางออกจากเมืองปัตนะแต่เช้า ข้ามสะพานมหาตมะคานธี ที่ยาวที่สุด
ถึง ๖ ก.ม.ซึ่งทอดข้ามแม่น้ำคงคา แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินเดีย ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญ ยาวเป็นอันดับ ๒ ของอินเดีย มีความยาว ๒,๕๑๐ ก.ม.ช่วงที่ข้ามแม่น้ำมองไปทั้งสองฝั่งเห็นผืนน้ำกว้างใหญ่ท่วมเอ่อสูงตลอดลำน้ำ คงจะสืบเนื่องมาจากน้ำท่วมใหญ่ทางอินเดียตอนเหนือบริเวณต้นแม่น้ำคงคา เมื่ออาทิตย์ก่อนก็เป็นได้ จึงเห็นน้ำเิ่จิ่งนองมากมายไปทั่วบริเวณริมฝั่ง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงเมืองไพสาลีหรือ เวสาลี ( Vaishali) ซึ่งในสมัยพุทธกาล
มีความสำคัญในฐานะเป็นเมืองหลวงของเจ้าลิจฉวี แห่งแคว้นวัชชี เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง
และเป็นที่มั่นสำคัญของพระพุทธศาสนาในสมัยนั้น โดยพระพุทธเจ้าได้เสด็จเมืองเวสาลีครั้งแรก
หลังจากออกพรรษาที่๒ เพราะเกิดภัยพิบัติ ๓อย่างพร้อมกัน คือทุพภิกขภัย อมนุสสภัยและอหิวา
ตภัย หลังจากนั้นก็ได้เสด็จมาอีกหลายครั้ง ในช่วงหลังพุทธกาล เมืองไพสาลีได้ตกเป็นของแคว้น
มคธโดยการนำของพระเจ้าอชาตศัตรูพระราชาแห่งเมืองราชคฤห์และหลังการล่มสลายของราชวงศ์
พิมพิสาร พระราชาองค์ต่อมาจึงได้ย้ายเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธมายังเมืองเวสาลี ทำให้เมืองนี้
เจริญถึงขีดสุด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองนี้ได้เป็นสถานที่ทำทุติยสังคายนาของพระพุทธศาสนา
ก่อนที่จะเสื่อมความสำคัญและถูกทิ้งร้างลงเมื่อมีการย้ายเมืองหลวงของแคว้นมคธไปยังเมือง
ปาฏลีบุตรหรือเมืองปัตนะอันเป็นเมืองหลวงของรัฐพิหารในปัจจุบัน
สถานที่แรกที่ไปเยี่ยมชมคือ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน สถานที่ประทับส่วนใหญ่ของพระพุทธเจ้าเมื่อเสด็จมาที่เวสาลี พระสูตรหลายพระสูตรเกิดขึ้นที่เมืองนี้ และเป็นสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงประทานอนุญาตให้พระนางมหาปชาบดีโคตมี พร้อมกับบริวารเจ้าหญิงศากยะ ๕๐๐ สามารถอุปสมบทเป็นภิกษุณีได้ เป็นครั้งแรกในโลก
พระสถูปเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช
เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช ที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด เพียงแห่งเดียวในประเทศอินเดีย
หัวเสาเป็นรูปสิงห์ นั่งหันหน้าไปทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองกุสินารา
หลังจากถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้ว ก็ขึ้นรถออกเดินทางไปสถานที่แห่งที่ ๒ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก คือปาวาลเจดีย์ สถานที่ปลงพระชนมายุสังขาร ในพรรษาสุดท้ายของพระพุทธเจ้า
ป้ายข้อมูลของปาวาลเจดีย์ สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับส่วนแบ่งจากกรุงกุสินารา
ทางเดินสู่ปาวาลเจดีย์ ซึ่งทำเป็นหลังคาครอบไว้เพื่อกันแดดกันฝน
ปาวาลเจดีย์ สถานที่ปลงพระชนมายุสังขาร ของพระพุทธเจ้าในพรรษาที่ ๔๕
ปาวาลเจดีย์
ทำประทักษิณ บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ณ ปาวาลเจดีย์
สระโบกขรณีมงคล ที่ใช้ในราชพิธีมุรธาภิเษก ของกษัตริย์ลิจฉวี อยู่อีกฝั่งถนนบริเวณด้านหน้าของปาวาลเจดีย์