วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

ปรัชญาเต่า

เต่า....เดินช้าแต่ไม่เคยถอยหลัง                    เต่า.....มีอายุยืน                        เต่า....เป็นสัตว์สอง                         อยู่ในน้ำก็ได้ อยู่บนบกก็ได้ ปรับสภาพเก่ง เข้ากับสภาพธรรมชาติสิ่งแวดล้อมได้ดี
เต่า....ฉลาด รู้จักหลบหลีกเอาตัวรอด เวลามีภัยอันตรายจะหดหัว ขาเข้าไปในกระดอง เพื่อให้ตัวเองพ้นภัย ทำเหมือนตายแล้วเมื่อหมดภัยอันตรายแล้ว ก็ยื่นหัวออกมาและก้าวขาออกไปสู่จุดมุ่งหมายตามความประสงค์ เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้แก่ชีวิต
เต่า....ขาสั้น แต่ความเพียรพยายามมาก จึงชนะกระต่ายขายาวมาเยอะ
เต่า....มีสี่ขา จึงสมกับปรัชญาที่ว่า 
                      ค่อยค่อย เรียนศิลป์ล้ำเลอคุณ              ค่อยค่อย แสวงหาทรัพย์ทุนก่อเค้า
                      ค่อยค่อย โกรธอย่าผลุนผลันโกรธ        ค่อยค่อย รักอย่าเร้าสี่นี้ควรประสงค์
เต่า....ใจเด็ด ไข่แล้วกลบ ไม่ห่วงไข่ ไข่เต่ามันขนาดนั้น ตัวเต่าจะมันขนาดไหน เต่า จึงฉลาด เสียสละไข่เอาชีวิตไว้ เพราะชีวิตสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ควรรักษาชีวิตไว้ให้ดี
       การรักษาชีวิตให้ดี คือ การรักษาหน้าที่การงานให้ดี งานคือชีวิต ชีวิตตั้งอยู่ได้เพราะหน้าที่่การงาน งานนำมาซึ่งโภคทรัพย์ทั้งหลาย หากเรารักษาชีวิตไว้ดี ชื่อว่ารักษาทุกสิ่งทุกอย่างไว้ดีด้วย  
      ชีวิต...ได้จากพ่อแม่ รู้จักใช้ชีวิตดี พ่อแม่ก็ดีไปด้วย  
      ความรู้....ได้จากครูอาจารย์ รู้จักใช้ความรู้ ครูอาจารย์ก็ดีไปด้วย  
      ยศศักดิ์....ได้จากพระเจ้าแผ่นดิน รู้จักรักษาหน้าที่การงาน เป็นการเชิดชูพระเจ้าแผ่นดิน
      พระเจ้าแผ่นดิน คุ้มครองเราตลอดเวลา
      ธาตุ  อายตนะ ที่มีในตัวเราเป็นชีวิต รู้จักนำไปประพฤติปฏิบัติบูชา เป็นการเกื้อกูลพระพุทธศาสนา
      ธรรมของพระพุทธเจ้า คุ้มครองเราตลอดเวลา
ฉะนั้น  พึงรักษาชีวิตให้ดี  งานคือชีวิต
การที่มีเต่าติดตัวไว้ ไม่ใช่เครื่องรางของขลัง หรือเป็นเรื่องที่งมงาย   มีไว้เป็นเครื่องเตือนสติ  หรือเป็นปรัชญา ในหลักทางพระพุทธศาสนา มีเต่าเกี่ยวข้องอยู่ด้วย
ประการแรก   เต่ามีอุปการธรรมในตัวเองโดยธรรมชาติ หากผู้ใดมีอุปการธรรม ธรรมย่อมอุปการะผู้นั้น 
                     สติ เป็นอุปการธรรม ควรมีสติในการคิด ควรมีสติในการพูด ควรมีสติในการทำ เมื่อคิดไม่
                     ผิด พูดไม่ผิด ทำไม่ผิด เพราะมีสติ ย่อมทำให้ชีวิต อนาคต ยศศักดิ์ หน้าที่การงาน ชื่อเสียง
                     ญาติบริวาร จะอยู่กับเรายาวนานเหมือนกับเต่าที่มีอายุยืน
ประการที่สอง เราควรปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติและสังคมสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ให้ธรรมชาติและสังคมสิ่ง  
                       แวดล้อม ปรับสภาพมาสู่ตัวเรา เพราะธรรมชาติมีก่อน เราควรรู้จักใช้ธรรมชาติให้เป็นประ
                       โยชน์ อุปมาอุปมัย เหมือนใช้เครื่องสื่อสาร เราควรจะปรับเครื่องรับให้ตรงกับเครื่องส่ง มิ
                       ใช่ไปปรับเครื่องส่งให้ตรงกับเครื่องรับ เพราะผิดธรรมชาติ ผู้ใดใช้ธรรมชาติเป็น ผู้นั้นชื่อ
                       ว่ามีธรรมในตัวเอง"สภาพซึ่งทรงไว้ซึ่งความจริงเป็นสัจธรรม"
ประการที่สาม ในหลักทางพระพุทธศาสนา ท่านสอนไว้ว่า "ไม่ควรฟังคำก้าวร้าวของผู้อื่น ไม่ควรมองดู
                       การงานของผู้อื่นเขาทำแล้ว และยังไม่ได้ทำ ควรพิจารณาดูแต่การงานของตนที่ทำแล้ว
                       และยังไม่ได้ทำเท่านั้น" ดังเช่น เต่าฉลาด รู้จักปกป้องและเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์เพื่อความ
                       อยู่รอด โดยวิธีมีเกราะกำบังภัย คือกระดองของเต่า "เอาแต่เรื่องของตัวเอง ไม่สนใจเรื่อง
                       ของผู้อื่น"
ประการที่สี่      ความเพียรเป็นสิ่งสำคัญ ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ และพ้นจากทุกข์ได้ เต่ามีความเพียร
                       พยายามฉันใด เต่าย่อมมีชัยชนะได้ ถึงแม้ว่าจะมีขาสั้น พึงชนะกระต่ายขายาวได้เช่นกัน
                       หากคนเรามีความเพียรในการคิด มีความเพียรในการพูด มีความเพียรในการทำ เพียรคิด
                       ทีละอย่าง ทำทีละอย่าง จะนำมาซึ่งความสำเร็จประโยชน์มาสู่ชีวิตและหน้าที่การงานได้
                       เว้นแต่ความคิดพร้อมๆกัน พูดพร้อมๆกัน ทำพร้อมๆกัน ทีละหลายเรื่อง จะเป็นบ่อเกิดแห่ง
                       ความทุกข์และไม่เป็นผลสำเร็จประโยชน์อีกด้วยแถมจะเป็นเครื่องบั่นทอนกำลังสติปัญญา
                       อย่างร้ายแรง ฉะนั้น ต้องฉลาดคิด ฉลาดพูด ฉลาดทำ
ประการสุดท้าย เต่ารู้จักรักษาชีวิต รู้คุณค่าของชีวิต เวลาไข่แล้วจึงใจเด็ดเสียสละไป เพื่อเอาชีวิตไว้
                         อุปมาเฉกเช่น ควรทำงานที่เป็นประโยชน์ส่วนใหญ่ก่อน ในระยะเวลาสั้นพึงละอุปสรรค
                         อันเล็กน้อยที่เกิดขึ้น ไว้คิดเมื่อภายหลังจะไม่เป็นการเสียโอกาส
       ชีวิตสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด พึงรักษาชีวิตให้ดี ผู้ใดรักชีวิตผู้นั้นพึงรักษาหน้าที่การงานให้ดี เพราะการงานนำมาซึ่งโภคทรัพย์ทั้งหลายเพื่อยังชีวิตให้อยู่ได้ ฉะนั้นผู้ใดรักษาหน้าที่การงานไว้ดี ก็ชื่อว่ารักษาชีวิตไว้ดีด้วย ผู้ใดรักษาชีวิตไว้ดีก็ชื่อว่ารักษาทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยดีเช่นกัน
        เพราะเหตุว่าชีวิตได้มาจากพ่อแม่ เมื่อเรารู้จักรักษาชีวิตของเราได้ดี พ่อแม่ก็ดีไปด้วย ถึงท่านละโลกนี้ไปแล้ว ตน ตัว หัว ขา อวัยวะทุกส่วนเราได้มาจากพ่อแม่ เรารู้จักใช้ในทางที่ดี ทางที่เป็นประโยชน์ เราชื่อว่าใช้พ่อแม่ได้ไม่เป็นโทษเพราะใช้สมบัติของท่านให้เป็นประโยชน์
        ครูบาอาจารย์เช่นกัน ท่านให้ความรู้แก่เรา เรานำความรู้ไปใช้พร้อมทั้งคุณวุฒิ คุณธรรม ชื่อว่าครูบาอาจารย์ก็อยู่ในชีวิตเราตลอดไป เรารักษาความรู้ไว้ได้ ครูบาอาจารย์ก็ดีไปด้วยและคุ้มครองเราตลอดไปไม่ว่าจะไปอยู่ในที่ไหนๆ
        ยศศักดิ์ก็เช่นกัน เราได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะข้าราชการ เราทำงานในหน้าที่ เป็นต่างพระเนตรพระกรรณของล้นเกล้า ล้นกระหม่อม ชื่อว่าเป็นการเทอดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พระองค์ทรงคุ้มครองเราตลอดเวลา
        ธาตุ อายตนะที่มีอยู่ในตัวเรา กาย จิต วิญญาณ นาม รูป ที่เป็นชีวิต เรารู้จักนำไปประพฤติปฏิบัติในคุณธรรม การรักษาศีล การบริจาคทาน การเจริญจิตภาวนา เป็นปฏิบัติบูชา พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่าเป็นบูชาอย่างยิ่ง นำชีวิตไปสู่ชีวิตที่ดี พระพุทธเจ้าคุ้มครองเราตลอด
        ดังนั้น ชีวิตสำคัญสมจริงดังที่กล่าวมา ดังปรัชญาเต่าที่กล่าวมาข้างต้น ขอให้ทุกคนจงรู้จักรักษาชีวิตให้ดีก็พอแล้ว           งานคือชีวิต งานดี ชีวิตดี ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดีไปด้วย  มีชีวิตอยู่ มีโอกาส มีทุกสิ่งทุกอย่างอีกเช่นกัน
เมตตาธรรมจาก หลวงพ่อสุรินทร์ กิตฺติโก เจ้าอาวาสวัดนครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น